มีเคล็ดลับป้องกันเงินหมดกระเป๋าก่อนวัยอันสมควรมาฝาก :P สำหรับทริปนี้ขอแนะนำการตรวจสอบซื้อแอพจาก App Store จะโชว์รายชื่อแอพที่เราซื้อไว้หรือบริการสมัครสมาชิกแบบตัดเงินอัตโนมัติซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ที่เลิกใช้ไปแล้วเกิดลืมว่าเคยทำอะไรไว้ จนมารู้ทีหลังว่ายอดเงินถูกหักไปกับการต่ออายุก็สายเกินแก้ ก็เป็นได้
ก่อนที่จะปฏิบัติการสายสืบมือฉมังจะต้องมีโปรแกรม iTunes ก่อน ส่วนบัญชีสำหรับ Sign in น่าจะได้สมัคร Apple IDไว้กันหมดทุกคนแล้ว ก็มาเริ่มตรวจสอบดูซิว่าเราได้สมัครหรือซื้อแอพอะไรไว้บ้าง?
เมื่อเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือครบแล้วเปิด iTunes ขึ้นมา เล็งไปที่ iTunes Store ก่อนเลย
แล้วกดที่ "ลงชื่อเข้า" ใส่ Apple ID ของบัญชีที่ต้องการตรวจสอบ กดดูบัญชีเพื่อเข้าไปจัดการรายการต่างๆ ได้แก่ Apple ID Summary, iTunes in The Cloud, Purchase History, Settings
ดูที่หัวข้อ Purchase History (ประวัติการซื้อ) กด See All (ดูทั้งหมด)
เข้าไปด้านในจะเห็นรายชื่อแอพทั้งหมดที่อยู่ใน Apple ID ของตัวเอง ทั้งแบบที่ซื้อมาและแบบดาวน์โหลดฟรีแม้กระทั่งรายการต่อสมาชิกรายเดือนก็จะถูกดึงมาแสดงด้วย ทำให้เราตรวจสอบได้ว่าตัวไหนเป็นต้นต่อของสาเหตุที่ทำให้ยอดเงินถูกหักไป สำหรับคนที่มีความผิดปกติกับบัญชี
หากเป็นอย่างว่าคุณสามารถยกเลิกบริการที่ต่ออายุแบบรายเดือน โดยย้อนกลับไปที่ Topic การตั้งค่า (Settings) มองหา "การสมัครสมาชิก" เลือกจัดการ
มาถึงจุดไคลแมกซ์ กดปิด ไปได้เลย สิ้นสุดภารกิจกลับบ้านนอน^^ หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์กด Like!!!
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ App Store แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ App Store แสดงบทความทั้งหมด
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วิธีสมัคร Apple ID บน iPhone แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
อย่างที่ได้สอนวิธี สมัคร Apple ด้วย iTunes บนคอมพิวเตอร์แบบ Step by Step หลายคนอาจจะบ่นว่ามี iPhone อยู่ทำไมต้องใช้คอมสมัครด้วย สมพรปากแล้วในบทความนี้เราจะแนะนำทางฝั่งของ iPhone เพื่อไว้โหลดแอพหรือเกม ใครที่เคยสมัครบนคอมมาแล้วก็คงจะไม่ยุ่งยากอะไรเพราะมันจะคล้ายๆ กัน
ข้อดีของการ สมัคร Apple ID ไว้เพราะแม้จะทำ iPhone หาย ก็ยังสามารถโหลดแอพที่เสียเงินซื้อมาใช้กับเครื่องใหม่โดยไม่ต้องเสียเงินรอบสองอีก ทั้งยังเป็นข้อบังคับของแอปเปิลหากไม่มี Apple ID ก็จะไม่สามารถโหลดของใน App Store ได้นั่นเอง เปรียบเทียบง่ายๆเลยคือ Apple ID เป็นบัตรเคดิตที่สามารถถือไปไหนมาไหนได้ เมื่อถึงเวลาต้องใช้ก็แค่หาตู้ ATM แล้วเสียบบัตรเพื่อไปจัดการกับบัญชี
เช่นเดียวกับ Apple ID แค่เราเอาสมองถือไม่ว่าจะเข้าจากอุปกรณ์ iPhone, iPad, PC ขอแค่จำอีเมลและรหัสผ่านได้แค่นั้นพอแต่ถ้าไม่มั่นใจในตัวเองก็จดใส่กระดาษหรือในอุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกได้ เปรียบเสมือนสมองที่สองของเรานั่นเอง กรณีที่ ลืมรหัส Apple ID ก็ไม่เป็นไรหากยังจำรายละเอียดบางส่วนได้อยู่ สามารถขอแอปเปิลรีเซ็ตรหัสผ่านได้
เกริ่นมาพอสมควรเล่นเอาเหงื่อตกไปตามๆกัน ตอนนี้มาเริ่มสร้างคลังเก็บของเป็นของตัวเองกันเถอะ กรุณาทำตามให้ครบอย่าข้ามเพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง
จับมือถือขึ้นมาเข้าไปที่ App Store จะมีแอพรอให้โหลดมากมายทั้งเสียเงินและฟรี ไม่ต้องไปสนใจแอพกับเสียเงินเพราะพระเอกที่จะมาร่วมงานกับขั้นตอนนี้คือ ของฟรี!! หาแอพหรือเกมส์ฟรีสักตัวแล้วกดปุ่ม Free ตามด้วย Install จะมีหน้าต่าง Sing in เด้งขึ้นมาเพื่อบอกว่าเรายังไม่ได้เข้าสู่ระบบนะ!! (อย่าเนียน) เลือก Use Existing Apple ID สำหรับคนที่มี Apple ID อยู่แล้ว แน่นอนว่าเรายังไม่มีดังนั้นให้เลือก Creat New Apple ID
ถัดมาจะเป็นหน้าต่างให้เลือกประเทศแล้วแต่ใครอยากโหลดแอพจากประเทศไหน ประเทศแอลเบเนีย สหรัฐอเมริกา แอลจีเรีย ไทย แองโกลา ก็ว่ากันไป (หลายคนถามจะไล่รายชื่อประเทศทั้งหมดเลยไหม?) จริงๆแล้วเลือก Thailand ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ฮาๆ พอเลือกแล้วจะมีเครื่องหมายถูก หลังจากนั้นกด Next
หน้านี้เขาจะให้เราอ่านข้อกำหนดเงื่อนไขข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple จะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้เพราะยังไงเราก็ต้องกดตกลงอยู่แล้ว (แนะนำว่ารู้ไว้หน่อยก็ดี) มีเครื่องหมายดอกจันว่า ถ้าไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เขาเขียนไว้จะไม่สามารถเปิดบัญชี Apple ID ได้นะ กด Agree เพื่อยอมรับ
มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว!! เตรียมสมองหรือกระดาษสำหรับจำไว้ให้ดีเพราะนี่คือ สิ่งที่จะใช้ในการเข้าสู่ระบบได้แก่ Email และ Password มีเครื่องหมายดอกจันเพิ่มขึ้นมาอีกดอกในส่วนของรหัสต้องประกอบด้วย ตัวพิมพ์ใหญ่, ตัวพิมพ์เล็ก และตัวเลข รวมกันแล้วต้องได้ 8 ตัวขึ้นไป
ขั้นตอนนี้จะเก็บข้อมูลไว้สำรองเผื่อ ลืมรหัส Apple ID โดยจะให้เราตั้งคำถามเองตอบเอง (ไม่ใช่คนบ้านะเฟ้ย!!) ซึ่งคำถามจะได้นำมาใช้แน่ถ้าลืมรหัส จำให้ได้ด้วยนะเออ!
ต่อมาเป็นข้อมูลส่วนตัวหน่อยนั่นก็คือ วัน เดือน ปี เกิด (ปิเกิดจะต้องใส่เป็น ค.ศ.เช่นเกิด 2537 ให้กรอกเป็น 1994) ที่สำคัญเนื้อหานี้ติดเรทต้องมีอายุ 18+
เลือก None หากพบว่าไม่มีคำว่า None ให้เลือก กลับไปทบทวนตั้งแต่แรกครับว่าได้ทำตามทุกขั้นตอนหรือเปล่า กด Next
ใกล้จะเสร็จแล้วอักนิด!! กรอกที่อยู่ให้ครบ กด Next แล้วจะมีข้อความแจ้งให้เราไปเช็คอีเมลแล้วกด ยืนยันเป็นอันเสร็จ
ข้อดีของการ สมัคร Apple ID ไว้เพราะแม้จะทำ iPhone หาย ก็ยังสามารถโหลดแอพที่เสียเงินซื้อมาใช้กับเครื่องใหม่โดยไม่ต้องเสียเงินรอบสองอีก ทั้งยังเป็นข้อบังคับของแอปเปิลหากไม่มี Apple ID ก็จะไม่สามารถโหลดของใน App Store ได้นั่นเอง เปรียบเทียบง่ายๆเลยคือ Apple ID เป็นบัตรเคดิตที่สามารถถือไปไหนมาไหนได้ เมื่อถึงเวลาต้องใช้ก็แค่หาตู้ ATM แล้วเสียบบัตรเพื่อไปจัดการกับบัญชี
เช่นเดียวกับ Apple ID แค่เราเอาสมองถือไม่ว่าจะเข้าจากอุปกรณ์ iPhone, iPad, PC ขอแค่จำอีเมลและรหัสผ่านได้แค่นั้นพอแต่ถ้าไม่มั่นใจในตัวเองก็จดใส่กระดาษหรือในอุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกได้ เปรียบเสมือนสมองที่สองของเรานั่นเอง กรณีที่ ลืมรหัส Apple ID ก็ไม่เป็นไรหากยังจำรายละเอียดบางส่วนได้อยู่ สามารถขอแอปเปิลรีเซ็ตรหัสผ่านได้
เกริ่นมาพอสมควรเล่นเอาเหงื่อตกไปตามๆกัน ตอนนี้มาเริ่มสร้างคลังเก็บของเป็นของตัวเองกันเถอะ กรุณาทำตามให้ครบอย่าข้ามเพื่อผลประโยชน์ของตัวท่านเอง
จับมือถือขึ้นมาเข้าไปที่ App Store จะมีแอพรอให้โหลดมากมายทั้งเสียเงินและฟรี ไม่ต้องไปสนใจแอพกับเสียเงินเพราะพระเอกที่จะมาร่วมงานกับขั้นตอนนี้คือ ของฟรี!! หาแอพหรือเกมส์ฟรีสักตัวแล้วกดปุ่ม Free ตามด้วย Install จะมีหน้าต่าง Sing in เด้งขึ้นมาเพื่อบอกว่าเรายังไม่ได้เข้าสู่ระบบนะ!! (อย่าเนียน) เลือก Use Existing Apple ID สำหรับคนที่มี Apple ID อยู่แล้ว แน่นอนว่าเรายังไม่มีดังนั้นให้เลือก Creat New Apple ID
ถัดมาจะเป็นหน้าต่างให้เลือกประเทศแล้วแต่ใครอยากโหลดแอพจากประเทศไหน ประเทศแอลเบเนีย สหรัฐอเมริกา แอลจีเรีย ไทย แองโกลา ก็ว่ากันไป (หลายคนถามจะไล่รายชื่อประเทศทั้งหมดเลยไหม?) จริงๆแล้วเลือก Thailand ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ฮาๆ พอเลือกแล้วจะมีเครื่องหมายถูก หลังจากนั้นกด Next
หน้านี้เขาจะให้เราอ่านข้อกำหนดเงื่อนไขข้อตกลงและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple จะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้เพราะยังไงเราก็ต้องกดตกลงอยู่แล้ว (แนะนำว่ารู้ไว้หน่อยก็ดี) มีเครื่องหมายดอกจันว่า ถ้าไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เขาเขียนไว้จะไม่สามารถเปิดบัญชี Apple ID ได้นะ กด Agree เพื่อยอมรับ
มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว!! เตรียมสมองหรือกระดาษสำหรับจำไว้ให้ดีเพราะนี่คือ สิ่งที่จะใช้ในการเข้าสู่ระบบได้แก่ Email และ Password มีเครื่องหมายดอกจันเพิ่มขึ้นมาอีกดอกในส่วนของรหัสต้องประกอบด้วย ตัวพิมพ์ใหญ่, ตัวพิมพ์เล็ก และตัวเลข รวมกันแล้วต้องได้ 8 ตัวขึ้นไป
ขั้นตอนนี้จะเก็บข้อมูลไว้สำรองเผื่อ ลืมรหัส Apple ID โดยจะให้เราตั้งคำถามเองตอบเอง (ไม่ใช่คนบ้านะเฟ้ย!!) ซึ่งคำถามจะได้นำมาใช้แน่ถ้าลืมรหัส จำให้ได้ด้วยนะเออ!
ต่อมาเป็นข้อมูลส่วนตัวหน่อยนั่นก็คือ วัน เดือน ปี เกิด (ปิเกิดจะต้องใส่เป็น ค.ศ.เช่นเกิด 2537 ให้กรอกเป็น 1994) ที่สำคัญเนื้อหานี้ติดเรทต้องมีอายุ 18+
เลือก None หากพบว่าไม่มีคำว่า None ให้เลือก กลับไปทบทวนตั้งแต่แรกครับว่าได้ทำตามทุกขั้นตอนหรือเปล่า กด Next
ใกล้จะเสร็จแล้วอักนิด!! กรอกที่อยู่ให้ครบ กด Next แล้วจะมีข้อความแจ้งให้เราไปเช็คอีเมลแล้วกด ยืนยันเป็นอันเสร็จ
วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557
Apple ขอให้นักพัฒนาถอดแอพโหลดเพลงออกจาก App Store ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
หลังจากที่ Apple ประกาศซื้อ Beats ก็เริ่มที่จะดัน iTunes Radio ให้เหนือคู่แข่งโดยขอให้นักพัฒนาถอดแอพดาวน์โหลดเพลงออกจาก App Store ทั้งนี้เป็นเพราะกังวลในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
จะเห็นได้ว่าเมื่อค้นหาแอพที่เกี่ยวกับเพลงก็จะมีข้อความเชิญชวนให้ไปใช้ iTunes Radio ก่อนที่จะแสดงเนื้อหา
ที่มา: MacRumors
จะเห็นได้ว่าเมื่อค้นหาแอพที่เกี่ยวกับเพลงก็จะมีข้อความเชิญชวนให้ไปใช้ iTunes Radio ก่อนที่จะแสดงเนื้อหา
ที่มา: MacRumors
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ซื้อแอพจาก App Store แล้วขอเงินคืนจะไม่สามารถติดตั้งซ้ำตัวเดิมได้อีก
อย่างที่ได้ทราบกันว่าเมื่อบุคคลใดก็ตามที่ซื้อแอพจาก App Store ผิดหรือไม่ชอบใจก็สามารถ ขอคืนเงินจาก Apple กรณีกดซื้อแอพโดยไม่ได้ตั้งใจ ได้ซึ่งเชื่อว่ามีหลายคนใช้ช่องทางนี้ในการหาโอกาศที่จะใช้แอพฟรีด้วยการขอเงินคืน ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอนแอพนั้นออกแต่อย่างใด
แต่แล้วล่าสุดแอปเปิ้ลได้ออกกฏใหม่ซึ่งหากขอคืนเงินไปแล้วจะไม่สามารถเปิดใช้แอพได้หรือหากพยายามติดตั้งใหม่ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
ที่มา: Ubergizmo
แต่แล้วล่าสุดแอปเปิ้ลได้ออกกฏใหม่ซึ่งหากขอคืนเงินไปแล้วจะไม่สามารถเปิดใช้แอพได้หรือหากพยายามติดตั้งใหม่ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
ที่มา: Ubergizmo
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)